วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

นอกจากนี้อาจารย์ยังพาพวกเราไปดูหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองที่บ้านท่าสว่างด้วยซึ่งที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องผ้าไหมระดับโลกเลยแหละ


หน้าบ้านทางเข้าค่ะขอถ่ายรูปสักนิดหนึ่งน่ะ


หมู่บ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง เป็นหมู่บ้านที่มีการทอผ้าไหมที่สวยงาม และมีความละเอียดของลวดลายเรียกว่า "ผ้าไหมลายยกทอง 1,416 ตระกอ" ซึ่งเป็นลายที่มีความละเอียดสวยงามสูงสุดของงานฝีมือทอผ้าไหม เเละเมื่อปี 2546 ที่ผ่านมา เมื่อประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค รัฐบาลไทยได้สั่งผ้าไหมลายยกทองจากหมู่บ้านท่าสว่าง เพื่อตัดเสื้อมอบให้ผู้นำเอเปคได้สวมใส่ จนผ้าไหมบ้านท่าสว่างเป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจึงมีการส่งเสริมให้มีการทอผ้าไหมอย่างต่อเนื่อง และมียอดสั่งจองเข้ามา ทำให้ชาวบ้านมีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับจ้างทอผ้าไหม (จากหนังสือพิมพ์ สยามรัฐ 4 ต.ค. 2548 หน้า 16)


ไหมสุรินทร์-ท่าสว่าง สุดยอดผ้าไหมโลก!


บ้านท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้รับการเรียกขานว่า "หมู่บ้านทอผ้าไหมเอเปกบ้านท่าสว่าง" เมื่อครั้งการประชุมผู้นำเศรษฐกิจ 21 ประเทศ ในปี 2546 ผู้นำพร้อมภริยาต่างสวมใส่ผ้าไหมยกทองของบ้านท่าสว่าง ถือเป็นผ้าไหมสินค้าโอท็อป 5 ดาว ระดับประเทศ

คำขวัญ จ.สุรินทร์ที่ว่า "สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ประคำสวย ร่ำรวยปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรม" เป็นคำขวัญที่สมบูรณ์แบบมาก ข้อความในแต่ละประโยค เป็นความจริงในวิถีของชาวสุรินทร์โดยแท้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช้าง ผ้าไหม เครื่องเงินหรือประคำ (ปะเกือม) แหล่งโบราณสถาน หัวไชโป๊หรือหัวผักกาดหวาน ที่ส่งออกไปขายทั่วโลก และวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวสุรินทร์แต่โบราณ




แหละนี่คือเจ้าของผลงานผ้าไหมระดับโลกทั้งสินค่ะ

บ้านท่าสว่าง หรือชื่อที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "บ้านเตรี๊ยะ" ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าสว่าง เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงด้านการทอผ้าไหม โดยเฉพาะการทอผ้าไหมลายยกทองโบราณ โดยอาจารย์วีระธรรม ตระกูลเงินไทย เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ในการพัฒนาและคิดค้นวิธีการทอผ้าไหม แบบลวดลายยกทองโบราณ

โดยประยุกต์ด้านจิตรกรรมไหมไทย การใช้สีธรรมชาติ การออกแบบลวดลายบนผ้าไหมอย่างวิจิตรบรรจง และมีการรวมกลุ่มของชาวบ้านท่าสว่าง เพื่อมาทำงานทอผ้าร่วมกัน ยามว่างจากการทำไร่ทำนา

ผ้าไหมบ้านท่าสว่าง ได้รับการยอมรับและยกย่องว่า เป็นการทอผ้าไหมที่มีความละเอียดตั้งแต่หนึ่งร้อยตะกอถึงหนึ่งพันกว่าตะกอ และเคยทอผ้าไหมหนึ่งพันสี่ร้อยสิบหกตะกอ เพื่อทอเป็นผ้าไหมยกทอง ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีการทอแบบราชสำนักผสมผสานกับเทคนิคการทอผ้าไหมแบบพื้นบ้าน จนกลายเป็นผ้าไหมทอมือที่มีความงดงามอย่างมหัศจรรย์ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

และเมื่อวันที่ 2-6 ก.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานพัฒนาชุมชน จ.สุรินทร์ เลือกหมู่บ้านท่าสว่าง เป็นสถานที่ในการจัดงาน "มหกรรมไหมสุรินทร์ สุดยอดไหมโลก" และหมู่บ้านโอท็อปเพื่อการท่องเที่ยวเชิงหัตถกรรม เรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน

แม้งานผ่านไปแต่วัฒนธรรมประเพณีและฝีมือในการทอผ้าไหมยังไม่เคยเปลี่ยน สำหรับผู้ที่ต้องการพักค้างคืนในหมู่บ้านท่าสว่าง มีบ้านพักโฮมสเตย์ไว้ต้อนรับ และจะมีมัคคุเทศก์น้อยพาเที่ยวชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นทุกวันในราคาเข้าพักเพียงคนละ 100 บาทต่อคืน

แล้วคุณจะประทับใจไปอีกนาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น